ทฤษฎีทวีปเลื่อน
อัลเฟรด เวเกเนอร์ (Alfred Wegener) นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันได้สังเกตแผนที่โลก
และพบว่าบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของทวีปอเมริกาใต้และชายฝั่งด้านตะวันตกของทวีปแอฟริกา
ดูเหมือนว่าจะต่อเข้ากันได้พอดี
คล้ายการต่อจิ๊กซอว์ และได้ตั้งข้อสังเกตว่าทวีปต่างๆ ในปัจจุบันทั้งหมด
ในอดีตเคยอยู่ติดกันเป็นผืนแผ่นดินขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียว
จากข้อสังเกตดังกล่าว อัลเฟรด เวเกเนอร์ จึงได้เสนอ ทฤษฎีทวีปเลื่อน (theory of continental drift) ที่อธิบายว่าในอดีตเมื่อประมาณ 200 ล้านปีก่อน ทวีปต่างๆที่เรารู้จักกันในปัจจุบันนี้เคยอยู่รวมกันเป็นแผ่นดินขนาดกว้างใหญ่เพียงแผ่นเดียวที่เรียกว่า พันเจีย (pangea) ซึ่งมีความหมายว่าแผ่นดินทั้งหมด ทะเลที่อยู่รอบๆ พันเจีย เรียกว่า พันทาลัสซา (panthalassa) ต่อมาพันเจียได้แตกออกเป็น 2 ส่วน ด้านเหนือของพันเจีย เรียกว่า ลอเรเซีย (laurasia) และด้านใต้ เรียกว่า กอนด์วานา (gondwana)
ในเวลาต่อมาพันเจียจึงค่อยๆ
แตกและเคลื่อนที่แยกออกจากกันเนื่องจากการขยายตัวของเปลือกโลกมหาสมุทร
การเคลื่อนที่แยกออกจากกันของพันเจียเมื่อประมาณ 200 ล้านปีก่อนจนกลายเป็นทวีปต่างๆ
ดังเช่นปัจจุบัน
หลักฐานที่สนับสนุนแนวทฤษฎีทวีปเลื่อน ได้แก่ หลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ พืชและสัตว์ หลักฐานจากภูมิอากาศโบราณและหลักฐานทางธรณีวิทยา
หลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์
จากการค้นพบหลักฐานซากดึกดำบรรพ์พืชและสัตว์ชนิดเดียวกันบนทวีปที่ปัจจุบันอยู่ห่างกันมากและมีมหาสมุทรคั่นไว้
ซึ่งพืชและสัตว์ดังกล่าวไม่สามารถแพร่พันธุ์ข้ามทวีปที่มีมหาสมุทรกว้างหลายพันกิโลเมตรคั่นไว้ จากหลักฐานดังกล่าวจึงนำมาใช้สนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อนที่กล่าวว่าทวีปต่างๆ
ในปัจจุบัน
ในอดีตเคยอยู่ติดกันเป็นผืนแผ่นดินขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียว ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับแผนที่พันเจีย
หลักฐานจากภูมิอากาศโบราณ
หลักฐานจากภูมิอากาศโบราณแสดงให้เห็นว่าหลายทวีปในปัจจุบันที่อยู่ในเขตอากาศร้อนชื้น ในอดีตทวีปดังกล่าวเคยถูกปกคลุมด้วยธารน้ำแข็งมาก่อน
โดยมีการค้นพบร่องรอยที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของธารน้ำแข็งในอดีตบนพื้นทวีป
หลักฐานทางธรณีวิทยา
หลักฐานทางธรณีวิทยาที่สนับสนุนทฤษฎีทวีปเลื่อน ได้แก่
การค้นพบชิ้นหินที่มีลักษณะเหมือนกันตรงบริเวณสองฝากฝั่งของมหาสมุทรแอตแลนติก ในทวีปอเมริกาใต้และทวีปแอฟริกา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น